Smile Yoga

Smile yoga ก่อตั้งเมื่อ 17 เม.ย. 2546 ด้วยรากฐานการบ่มเพาะประสบการณ์จากการปฏิบัติโยคะอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เมื่อผนวกเข้ากับความรักในการถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อื่น ค้นพบเส้นทางสุขภาพสายนี้ Smile Yoga จึงเกิดขึ้น เราต่างตระหนักถึง แนวคิดพื้นฐานอย่างหนึ่งของความเป็นมนุษย์คือ มนุษย์ทุกคนล้วนมีความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพ ความคิด หรือจิตใจ ฉะนั้นการฝึกโยคะให้ได้ผลดีที่สุด จะต้องสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะตนของแต่ละบุคคลได้ Smile Yoga จึงคิดค้นและร่วมกับคุณค้นหาความเป็นตัวตน ด้วยการสอนอย่างใกล้ชิด อันจะส่งผลให้ทุกคนพบท่วงท่า และการฝึกโยคะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง เพื่อเติมเต็มตัวคุณให้เปี่ยมไปด้วยศักยภาพทั้งด้านสุขภาพ ความคิด และจิตวิญญา

วิไลวรรณ แก้ววิชัย(ครูปุย)

รูปุยค้นหาและเรียนรู้ในศาสตร์แห่งโยคะ ตั้งแต่พ.ศ. 2533ขณะกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความใคร่รู้ว่าโยคะคืออะไร ประกอบปัญหาสุขภาพ ทั้งเรื่องน้ำหนักตัว สมาธิ และอาการปวดประจำเดือน เป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเองหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ วิธีคิด และสภาพอารมณ์ หลังจากจบการศึกษา เข้าทำงานประจำหลายแห่ง แต่เนื่องเห็นคุณประโยชน์ในการฝึกโยคะ จึงได้มาเรียนเพิ่มเติมในหลักสูตรครูโยคะกับ อ.สุนีย์ และนพ. เอนก ยุวจิตติ อีกครั้งหนึ่ง เกิดความเข้าใจตระหนักถึงคุณค่าในศาสตร์นี้อย่างลึกซึ้ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2539 อ.สุนีย์มองเห็นความสามารถและความตั้งใจ จึงเปิดโอกาสเข้ามาสอนโยคะร่วมกับอาจารย์ เริ่มเรียนรู้เทคนิคในการถ่ายทอดและเพิ่มพูนประสบการณ์ในการสอนโยคะ ฝึกฝนพัฒนาคุณภาพแห่งตนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นอบรมหลักสูตรครูโยคะเพิ่มเติมกับ อ. กวี คงภักดีพงษ์ พ.ศ. 2546 จึงร่วมกับครูจอย ก่อตั้ง Smile Yoga ขึ้นพร้อมปณิธานอันมุ่งมั่น ในการถ่ายทอดความรู้ในศาสตร์แห่งสุขภาพสายนี้ ด้วยความตั้งใจจริงอย่างที่ทำมากว่าสิบปี

ภสวรรณ์ เดชมหามงคล(ครูจอย)

รูสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะบัญชี ด้วยเกียตรินิยมอันดับหนึ่ง แต่ได้ละทิ้งเส้นทางแห่งความสำเร็จและทรัพย์สินอย่างนักบัญชี เพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งโยคะด้วยความรักและความมุ่งมั่น ก้าวเข้าสู่เส้นทางสายสุขภาพสายนี้ ด้วยความเข้าใจว่า โยคะคือการออกกำลังกาย สามารถช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้ อีกทั้งตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และระบบขับถ่าย จึงเริ่มฝึกโยคะครั้งแรกกับ อ. สุนีย์ ยุวจิตติ และครูปุย ผ่านการฝึกไปสักระยะหนึ่งปัญหาสุขภาพลดลง ต่อมามีโอกาสเรียนโยคะเพิ่มเติมกับ อ. กวี คงภักดีพงษ์ และศึกษาด้วยการอ่านหนังสือโยคะ จึงพบว่าโยคะมิใช่เรื่องกายภาพเท่านั้น หากยังหมายรวมถึง อารมณ์ จิตใจ อีกด้วย เพราะนอกจากสุขกายจะดี คุณภาพจิตยังพัฒนาอารมณ์มั่นคงกอปรด้วยสมาธิยิ่งขึ้น เมื่อเรียนรู้อย่างเข้าใจ เปรียบเสมือนการวางรากฐานอันถูกต้องเกี่ยวกับโยคะ จึงพร้อมที่จะถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น ด้วยความรักและความตั้งใจ ในขณะที่ถ่ายทอดก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการสอนไปด้วยพร้อมกัน จากความรักและความผูกพันธ์ฉันครูศิษย์กับครูปุย Smile Yoga จึงเกิดขึ้น เพื่อเป็นสถานที่แห่งการพัฒนาคุณภาพกายและจิต อันเต็มเปี่ยมด้วยมิตรภาพและความอบอุ่น